การดำเนินการในระดับรากหญ้าเป็นหัวใจหลักของการทำงานของเรา ผู้รับผลประโยชน์ขั้นสุดท้ายของเราคือเกษตรกรรายย่อย ชาวประมงพื้นบ้านรายย่อย และชุมชนที่พึ่งพาทรัพยากรอื่นๆ ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบทและชายฝั่งของประเทศไทย เราทำงานร่วมกับชุมชนเหล่านี้เพื่อดำเนินโครงการที่เกี่ยวข้องกับการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ การลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการเพิ่มขีดความสามารถของสตรี โครงการริเริ่มโดยระดับรากหญ้าเหล่านี้ตอบสนองความต้องการและความกังวลของชุมชนที่พึ่งพาทรัพยากรโดยตรง พัฒนาแนวทางใหม่ๆ ในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติพิสูจน์ให้เห็นว่าแนวทางใหม่เหล่านี้มีประสิทธิผล และมีความยั่งยืน.

ลักษณะของโครงการริเริ่มจากระดับรากหญ้า ผ่านการปรึกษาหรือร่วมกันเพื่อปรับแต่งให้เข้ากับบริบทเฉพาะของแต่ละพื้นที่ แต่ละกรณี ให้ความสำคัญกับการริเริ่มบูรณาการที่นำโดยชุมชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลายฝ่าย ปรับปรุงให้สอดคล้องกับการดำรงชีวิตและความมั่นคงทางอาหารของชุมชนท้องถิ่น ขณะเดียวกันก็ต้องมั่นใจในความยั่งยืนของทรัพยากรและระบบนิเวศ.

การมีส่วนร่วมในระดับนโยบาย

ความสำคัญในการทำงานในระดับนโยบาย

ประการแรก การทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐในระดับชาติช่วยให้มั่นใจได้ว่า จะสามารถผลักดันให้การดำเนินงานของเราและชุมชนที่พึ่งพาทรัพยากรในระดับรากหญ้าเกิดการยอมรับในระดับนโยบาย ในกรณีที่ไม่มีการประสานงานในรูปแบบนี้ ส่งผลให้ขาดการยอมรับในแนวความคิดความเห็นของคนในระดับรากหญ้าและเมื่อระดับรากหญ้าและระดับนโยบายดำเนินการไม่สอคล้องกัน การนำใช้ระดับปฏิบัติการเป็นไปได้ยากยิ่งขึ้น ลดโอกาสการยอมรับการมีตัวตนของคนรากหญ้าอย่างยั่งยืนในระยะยาว

ประการที่สอง ปัญหาที่ชุมชนต้องพึ่งพาทรัพยากรเป็นผลโดยตรงจากนโยบายการพัฒนาของรัฐซึ่งไม่เหมาะสมไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ในท้องถิ่นส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตดั้งเดิมของเกษตรกรรายย่อยและชาวประมงพื้นบ้าน ดังนั้น การผลักดันเชิงรุกในระดับนโยบายจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการรักษาสถานะและปกป้องสิทธิของชุมชนที่พึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติ เช่นเดียวกับแนวทางการปรับปรุงสถานะทางสังคมและเสริมสร้างความเข้มแข็งทางการเมือง.

เราทำงานร่วมกับชุมชนที่พึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติและเครือข่ายภาคประชาสังคมเพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับนโยบายทั้งระดับชาติ ระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติ เพื่อวิเคราะห์ผลกระทบเชิงบวกและเชิงลบที่อาจเกิดขึ้นจากนโยบายต่างๆ และเพื่อพัฒนาข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการปรับปรุงนโยบายต่างๆ เพื่อประโยชน์ต่อชุมชนอันเปราะบางที่พึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติและระบบนิเวศทางธรรมชาติ เรายังร่วมพัฒนาข้อเสนอแนะซึ่งเน้นถึงความเป็นจริงของชุมชนระดับรากหญ้าที่ได้รับผลกระทบในเชิงบวกหรือเชิงลบจากนโยบายต่างๆ เหล่านั้น และส่งเสริมการมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์ระหว่างชุมชนที่พึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติและผู้กำหนดนโยบาย.

การดำเนินงานและปัญหาที่ชุมชนที่พึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติต้องเผชิญมักมีความซับซ้อนและมีหลายแง่มุม เกี่ยวข้องและมีปฏิสัมพันธ์กับกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในระดับรากหญ้าที่หลากหลาย ดังนั้น วิธีที่จะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้อย่างแท้จริงคือการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันกับผู้มีส่วนร่วมและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องเพื่อบรรลุฉันทามติในวงกว้างเกี่ยวกับปัญหาพื้นฐานและอำนวยความสะดวกในการประสานงานและความร่วมมือระหว่างองค์กร หน่วยงาน และภาคส่วนต่างๆ อย่างไรก็ตาม กุญแจสำคัญในทั้งหมดนี้คือการมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียมกันของสมาชิกที่หลากหลายในชุมชนระดับรากหญ้าโดยให้ความสนใจเป็นพิเศษกับกลุ่มผู้เปราะบางและผู้ที่มักจะไม่ได้รับโอกาสในกระบวนการตัดสินใจในระดับต่างๆ

เราทำงานเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของชุมชนที่พึ่งพาทรัพยากรในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ  การลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และโครงการพัฒนาที่ครอบคลุมโดยมุ่งเน้นเป็นพิเศษไปที่ผู้เปราะบางและคนชายขอบรวมถึงผู้หญิง เยาวชนและคนยากจน เราดำเนินกระบวนการปรึกษาหารือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลายฝ่ายทำงานเพื่อมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด ไม่ว่าจะได้รับผลกระทบจากปัญหาหรือผู้บทบาทในการแก้ไขปัญหา เราส่งเสริมและอำนวยความสะดวกในการประสานงานและประสานความร่วมมือระหว่างองค์กรและหน่วยงานที่หลากหลาย เสริมสร้างการทำงานร่วมกันระหว่างสถาบันและระหว่างภาคส่วนต่างๆ

แนวทางการทำงานบนฐานระบบนิเวศ

ธรรมชาติเป็นสิ่งที่ไม่ควรถูกกำหนดขอบเขตโดยการบริหารหรือการปกครอง ระบบนิเวศมักครอบคลุมพื้นที่การปกครองหลายแห่ง ป่าไม้ แผ่นดิน ทะเล ล้วนต่างมีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน แม้ว่าหน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบในการจัดการจะไม่ดำเนินการใดๆ ก็ตาม การทำงานร่วมกับชุมชนที่พึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติและระบบนิเวศที่เปราะบางจึงต้องประสานงานและร่วมมือกับคน ชุมชน หน่วยงานในพื้นที่ และหน่วยงานของรัฐที่หลากหลายในระดับระบบนิเวศเพื่อให้เกิดความสอดคล้องกับแนวทางของธรรมชาติ ความล้มเหลวในการขาดการเชื่อมโยงระหว่างกันของระบบนิเวศตามธรรมชาติจะคุกคามการดำรงชีวิตและความยั่งยืนของการดำเนินการใดๆ และอาจนำไปสู่การตีความหรือความเข้าใจสาเหตุพื้นฐานของปัญหาและประเด็นที่กำลังเผชิญในระดับท้องถิ่นที่ไม่ถูกต้องตรงประเด็น

เราพยายามทำความเข้าใจในภาพรวมที่ใหญ่กว่าเสมอ โดยให้ความสำคัญกับแนวทางที่คำนึงถึงระบบนิเวศในวงกว้างมากกว่าการแก้ไขปัญหาระดับท้องถิ่นในลักษณะปัจเจกทีละน้อย เราทำงานอย่างหนักเพื่อทำความเข้าใจองค์ประกอบทั้งหมดของระบบนิเวศไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิต สิ่งแวดล้อม หรือสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น ส่งเสริมให้ชุมชนท้องถิ่นคิดโดยก้าวข้ามความต้องการเร่งด่วน ส่งเสริมให้หน่วยงานท้องถิ่นร่วมมือกันข้ามเขตการปกครอง และสนับสนุนให้หน่วยงานของรัฐบูรณาการความพยายามแทนที่จะทำงานอย่างเคร่งครัดตามอำนาจหน้าที่

องค์ประกอบสำคัญของโครงการทั้งหมดของเรา คือการเสริมสร้างศักยภาพให้กับผู้มีบทบาทและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง เพื่อสนับสนุนให้ชุมชนท้องถิ่น หน่วยงานในพื้นที่ หน่วยงานของรัฐร่วมมือกันในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ การลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และโครงการพัฒนาที่เข้ามาในพื้นที่โดยไม่อาจคาดการณ์ได้ ผู้มีบทบาทและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียแต่ละกลุ่มมีความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาขีดความสามารถในบางด้านไม่ว่าจะเป็นความรู้ทางเทคนิค ความสามารถในการบริหารจัดการหรือทักษะอื่นๆ เช่นการประสานงาน การทำงานร่วมกัน และการแก้ไขความขัดแย้ง

เราทำงานเพื่อทำความเข้าใจขีดความสามารถและข้อจำกัดที่มีอยู่ของผู้มีบทบาทและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกลุ่มต่างๆ จากนั้นพัฒนาโปรแกรมและกระบวนการเพื่อเพิ่มความตระหนักความรู้ความเข้าใจและทักษะตามที่กำหนด โดยดำเนินการได้หลายรูปแบบ เช่น การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ การศึกษาดูงาน การเรียนรู้โดยการลงมือทำและโปรแกรมเฉพาะในด้านต่างๆ เช่น การเสริมสร้างศักยภาพของสตรี

การประสานงานและการสร้างเครือข่ายมีความสำคัญด้วยเหตุผลหลายประการ ทั้งช่วยสร้างความสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจระหว่างผู้มีบทบาทและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่หลากหลาย ช่วยให้บรรลุฉันทามติในปัญหา สาเหตุพื้นฐานและแนวทางแก้ไขที่อาจเป็นไปได้ ช่วยลดโอกาสที่จะเกิดความขัดแย้ง หลีกเลี่ยงการใช้ความพยายามซ้ำซ้อนโดยไม่จำเป็นระหว่างชุมชน องค์กรและหน่วยงานต่างๆ เสริมสร้างการทำงานร่วมกันระหว่างโครงการ เสริมวิสัยทัศน์ เสริมสร้างเสียงทางการเมืองของกลุ่มคนชายขอบและผู้ด้อยโอกาส และที่สำคัญที่สุดคือปัญหามากมายที่ชุมชนซึ่งพึ่งพาทรัพยากรและระบบนิเวศทางธรรมชาติที่เปราะบางต้องเผชิญอยู่ อันไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยความพยายามของชุมชนองค์กรหรือหน่วยงานเพียงแห่งเดียว หากแต่ต้องใช้ความร่วมมือกันจึงจะแก้ไขปัญหาได้

การส่งเสริมการแลกเปลี่ยนข้อมูลและแนวคิด เราทำงานเพื่อให้เห็นถึงตัวตนของผู้มีบทบาทและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับปัญหาหรือประเด็นใดประเด็นหนึ่งหรือผู้ที่อาจมีบทบาทในการแก้ไขปัญหา เรามีส่วนสนับสนุนในการประสานงานและให้คำปรึกษาแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่างๆ เหล่านั้นและเป็นสื่อกลางที่จะทำให้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลความคิดเห็นและแนวคิดของแต่ละฝ่าย เราส่งเสริมให้กลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียแต่กลุ่มได้ตระหนักถึงการมีตัวตน มีบทบาทอย่างแข็งขันในการริเริ่มจากระดับรากหญ้าโดยให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับชุมชนท้องถิ่น หน่วยงานท้องถิ่น และหน่วยงานของรัฐ นอกจากนี้ เรายังส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างเครือข่ายที่กระตือรือร้นในกลุ่มคนชายขอบ เช่น เกษตรกรรายย่อย ชาวประมงพื้นบ้าน และกลุ่มสตรีในท้องถิ่น

Scroll to Top